มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
"
การชุมนุมสาธารณะ” หมายความว่า การชุมนุมของบุคคลในที่สาธารณะเพื่อเรียกร้อง สนับสนุนคัดค้าน หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยแสดงออกต่อประชาชนทั่วไป และบุคคลอื่นสามารถร่วมการชุมนุมนั้นได้ ไม่ว่าการชุมนุมนั้นจะมีการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายด้วยหรือไม่
(*
หมายเหตุ-กรณีชุมนุมที่ไม่เข้าข่าย ได้แก่ ไม่ใช่ที่สาธารณะ , ไม่ได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไป , บุคคลอื่นไม่สามารถเข้าร่วมได้)
มาตรา ๓ พระราชบัญญัตินี้
ไม่ใช้บังคับแก่การชุมนุมสาธารณะ ดังต่อไปนี้
(๑) การชุมนุมเนื่องในงาน
พระราชพิธีและงานรัฐพิธี
(๒) การชุมนุมเพื่อประกอบพิธีกรรมทาง
ศาสนาหรือกิจกรรมตาม
ประเพณีหรือตามวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น
(๓) การชุมนุมเพื่อ
จัดแสดงมหรสพ กีฬา ส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมอื่นเพื่อประโยชน์ทางการค้าปกติของผู้จัดการชุมนุมนั้น
(๔) การชุมนุม
ภายในสถานศึกษา
(๕) การชุมนุมหรือการประชุมตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือการประชุม
สัมมนาทางวิชาการของสถานศึกษาหรือหน่วยงานที่มีวัตถุประสงค์ทางวิชาการ
(๖) การชุมนุมสาธารณะในระหว่างเวลาที่มี
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือประกาศใช้กฎอัยการศึก และการชุมนุมสาธารณะที่จัดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้ง แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
มาตรา ๖ การชุมนุมสาธารณะต้องเป็นไป
โดยสงบและ
ปราศจากอาวุธ
การใช้สิทธิและเสรีภาพของผู้ชุมนุมในระหว่างการชุมนุมสาธารณะ ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
มาตรา ๗ การจัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมี
หนึ่งร้อยห้าสิบเมตรจาก
พระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระราชนิเวศน์ พระตําหนัก หรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ประทับหรือพํานัก หรือสถานที่พํานักของพระราชอาคันตุกะ จะกระทํามิได้
การจัดการชุมนุมสาธารณะภายในพื้นที่ของ
รัฐสภา ทําเนียบรัฐบาล และ
ศาล จะกระทํามิได้ เว้นแต่มีการจัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สําหรับการชุมนุมสาธารณะภายในพื้นที่นั้น
ศาล ตามวรรคสอง หมายความถึง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร และศาลอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาล
ในกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์แห่งการรักษาความปลอดภัยสาธารณะและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีอํานาจประกาศ
ห้ามชุมนุมในรัศมี
ไม่เกินห้าสิบเมตรรอบสถานที่ตามวรรคสอง ทั้งนี้ ให้คํานึงถึงจํานวนของผู้เข้าร่วมชุมนุมและพฤติการณ์ในการชุมนุมด้วย
มาตรา ๘ การชุมนุมสาธารณะต้อง
ไม่กีดขวางทางเข้าออก หรือ
รบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) สถานที่ทําการหน่วยงานของรัฐ
(๒) ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งสาธารณะ
(๓) โรงพยาบาล สถานศึกษา และศาสนสถาน
(๔) สถานทูตหรือสถานกงสุลของรัฐต่างประเทศ หรือสถานที่ทําการองค์การระหว่างประเทศ
(๕) สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
(*
หมายเหตุ - ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗ หรือมาตรา ๘ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา ๒๗)
มาตรา ๙ หน่วยงานของรัฐอาจจัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สําหรับการชุมนุมสาธารณะก็ได้
การจัดให้มีสถานที่เพื่อการชุมนุมสาธารณะตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อเสรีภาพของประชาชนที่จะจัดการชุมนุมสาธารณะในที่สาธารณะอื่น
มิให้นําความในหมวด ๒ การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ มาใช้บังคับแก่การชุมนุมสาธารณะที่จัดขึ้นภายในสถานที่ตามวรรคหนึ่ง
มาตรา ๑๐ ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุม
ไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง
ให้ถือว่าผู้เชิญชวนหรือนัดให้ผู้อื่นมาร่วมชุมนุม ในวัน เวลา และสถานที่ที่กําหนดไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ๆ รวมทั้งผู้ขออนุญาตใช้สถานที่ หรือเครื่องขยายเสียง หรือขอให้ทางราชการอํานวยความสะดวกในการชุมนุม เป็น
ผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะตามวรรคหนึ่ง
การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ
ต้องระบุวัตถุประสงค์ และวัน ระยะเวลา และสถานที่ชุมนุมสาธารณะ ตามวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด ซึ่งต้องเป็นวิธีที่สะดวกแก่ผู้แจ้ง และต้องให้แจ้งผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ด้วย
(*
หมายเหตุ - ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตามมาตรา ๒๘)
"
ผู้รับแจ้ง" หมายความว่า
๑. หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะ (หรือรักษาราชการแทน) หรือ
๒. บุคคลอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ให้เป็นผู้มีหน้าที่รับแจ้งการชุมนุมสาธารณะ
มาตรา ๑๑ เมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้ผู้รับแจ้งส่ง
สรุปสาระสําคัญในการชุมนุมสาธารณะตามพระราชบัญญัตินี้ให้ผู้แจ้งทราบ
ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง
ในกรณีที่ผู้รับแจ้งเห็นว่าการชุมนุมสาธารณะที่ได้รับแจ้งนั้นอาจขัดต่อ
มาตรา ๗ หรือมาตรา ๘ ให้ผู้รับแจ้ง
มีคําสั่งให้ผู้แจ้ง
แก้ไขภายในเวลาที่กําหนด
หากผู้แจ้งการชุมนุมไม่ปฏิบัติตามคําสั่งตามวรรคสอง ให้ผู้รับแจ้งมี
คําสั่งห้ามชุมนุมโดยแจ้งคําสั่งเป็นหนังสือไปยังผู้แจ้ง
กรณีผู้แจ้งการชุมนุมไม่เห็นชอบด้วยกับคําสั่งตามวรรคสาม
ให้ยื่นอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือผู้รับแจ้งขึ้นไปหนึ่งชั้น และให้
ผู้รับอุทธรณ์วินิจฉัยและแจ้งคําวินิจฉัยอุทธรณ์
ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง คําวินิจฉัยอุทธรณ์นั้นให้เป็นที่สุด
ในระหว่างมีคําสั่งห้ามชุมนุม การอุทธรณ์และพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้งดการชุมนุมสาธารณะ
(*
หมายเหตุ - ผู้ใดฝ่าฝืนคําสั่งห้ามชุมนุมหรือจัดการชุมนุมระหว่างมีคําสั่งห้ามชุมนุมตามมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา ๒๙)
มาตรา ๑๒ ให้ผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะซึ่ง
ไม่สามารถแจ้งการชุมนุมได้ภายในกําหนดเวลา
ตามมาตรา ๑๐ แจ้งการชุมนุมพร้อม
คําขอผ่อนผันกําหนดเวลาดังกล่าวต่อผู้บังคับการตํารวจผู้รับผิดชอบพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร หรือผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดในจังหวัดอื่นแล้วแต่กรณี
ก่อนเริ่มการชุมนุม ให้นําความในมาตรา ๑๐ วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การแจ้งตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม ให้
ผู้รับคําขอผ่อนผันตามวรรคหนึ่งมีหนังสือ
แจ้งคําสั่งพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ยื่นคําขอทราบ
ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้รับคําขอ
(*หมายเหตุ - ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตามมาตรา ๒๘)
มาตรา ๑๓ ให้ผู้รับแจ้งตามมาตรา ๑๑ และผู้รับคําขอผ่อนผันตามมาตรา ๑๒ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๑๔ การชุมนุมสาธารณะที่ไม่เป็นไปตาม
มาตรา ๖ หรือไม่แจ้งการชุมนุมตาม
มาตรา ๑๐ หรือที่ผู้แจ้งไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของผู้รับแจ้ง หรือที่ผู้รับแจ้งมีคําสั่งห้ามการชุมนุมตาม
มาตรา ๑๑ หรือที่จัดขึ้นหลังจากที่ผู้ยื่นคําขอได้รับหนังสือแจ้งว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะผ่อนผันกําหนดเวลาตาม
มาตรา ๑๒ ให้ถือว่าเป็น
การชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สรุป สาระสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น "การชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" หมายถึง
๑. การชุมนุมสาธารณะ โดยไม่สงบหรือมีอาวุธ รวมถึงไม่อยู่ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย
๒. การชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุม หรือแจ้งก่อนจะชุมนุมน้อยกว่า ๒๔ ชั่วโมง(เว้นแต่ได้ยื่นขอผ่อนผันแล้ว)
๓. การชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้แก้ไข กรณีจัดการชุมนุมในบริเวณสถานที่สำคัญตามมาตรา ๗ หรือกีดขวางหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือใช้บริการในสถานที่ตามมาตรา ๘ ทั้งนี้ภายในเวลาที่กำหนด
๔. การชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ปฏิบัติตามหนังสือคำสั่งห้ามการชุมนุม หรือไม่งดชุมนุมในระหว่างการอุทธรณ์และพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งนั้น
๕. การชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ปฏิบัติตามหนังสือคำสั่งที่แจ้งให้ทราบว่า ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะผ่อนผันกำหนดเวลาที่ไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า ๒๔ ชั่วโมง
ในกรณีการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม
มาตรา ๑๔ ให้เจ้าพนักงานประกาศให้ผู้ชุมนุม
เลิกการชุมนุมภายในระยะเวลาที่กําหนด ในกรณีผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุมฝ่าฝืน
มาตรา ๗ หรือไม่ปฏิบัติตาม
มาตรา ๘ ให้เจ้าพนักงานประกาศให้ผู้ชุมนุมแก้ไขภายในระยะเวลาที่กําหนด หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว ให้เจ้าพนักงานร้องขอต่อศาลแพ่งหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอํานาจเหนือสถานที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะเพื่อมีคําสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะนั้น ตามลำดับขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.